บีไลฟ์ส่ง “CognatiQ Balance” เจาะกลุ่มที่มองหาวิถีชีวิตที่สมดุล เมื่อชีวิตเร่งรีบจนละเลยสุขภาพ

บีไลฟ์ (Be Life) แบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้องใหม่ ประเดิมเปิดตัวโพรดักส์ “CognatiQ Balance” (ค็อกนาทีก บาลานซ์) จับอินไซต์สุขภาพของคนยุคใหม่ที่ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ ตอบโจทย์คนทำงานที่ต้องการใส่ใจตัวเองในทุกมิติ เร่งขยายฐานลูกค้าทั่วประเทศแบ่งสัดส่วน กรุงเทพฯ 70% และหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด 30% ด้วยแนวคิด Your Wellness Companion เพื่อนร่วมทางที่นำเสนอทางเลือกด้านสุขภาพที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ดันยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มแบบปูพรม พร้อมจัดเต็มโปรโมชั่นและกิจกรรมแน่นตลอดครึ่งปีหลัง 2568

นายอนันต์สิทธิ์ รุจิรากรสกุล ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะนลาดา กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์บีไลฟ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันกระแสการดูแลสุขภาพยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากอย่างชัดเจน ไม่เพียงเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ครอบคลุมการใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบของผู้คนทุกกลุ่มที่มีหลากหลายบทบาท มีไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน และมีความต้องการดูแลตัวเองในแบบที่เหมาะกับตัวเองมากขึ้นตามโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว 

“จากประสบการณ์ส่วนตัว ผมพบว่าหลายครั้งเราทำสิ่งต่าง ๆ จนละเลยการดูแลสุขภาพเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตัวเองทั้งทางกายและทางใจ จึงเกิดเป็นความตั้งใจในการสร้างแบรนด์ Be Life ที่อยากเป็นเพื่อนร่วมทางของผู้คนในทุกจังหวะชีวิตที่แค่รู้สึกว่าอยากดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ ไม่ว่าจะกำลังทำงาน พักผ่อน หรือใช้ชีวิตประจำวันก็ตาม”

ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวแรกได้แก่ “Be Life CognatiQ Balance” (บีไลฟ์ ค็อกนาทีก บาลานซ์) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Functional Wellness ที่ผสานวิตามิน แร่ธาตุ และสารสกัดจากธรรมชาติ รวมถึงส่วนประกอบที่ได้รับการคัดสรรจากต่างประเทศ เพื่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม”

ทางด้านกลยุทธ์ทางการตลาดในการดำเนินธุรกิจ เน้นการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ในกลุ่มเป้าหมายอย่างเข้มข้นในทุกช่องทางการสื่อสาร สร้างความเชื่อมโยงกับผู้คน ผ่านการพูดคุยกับผู้คนบนคอลัมน์ Everyday with Be Life บนสื่อและเวบไซต์ของแบรนด์ ที่เล่าเรื่องราวเล็ก ๆ ในแต่ละวัน ตั้งแต่ความเครียดที่เราทุกคนเคยรู้สึก ความพยายามในการหาสมดุล ไปจนถึงคุณค่าของการดูแลใจตัวเองแม้เพียงเล็กน้อย เพื่อที่จะสร้างพื้นที่ที่คนรู้สึกว่า “แบรนด์นี้เข้าใจและอยู่ข้างใจเขาจริงๆ” ส่วนในระยะยาวได้วางแผนขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ในสาย Functional Wellness สำหรับการดูแลตัวเองแบบองค์รวม เพื่อตอบรับกับความต้องการที่หลากหลายของผู้คน โดยทางแบรนด์จะไม่หยุดแค่การเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ แต่จะค่อย ๆ เติบโตเป็น Community สำหรับคนใส่ใจดูแลสุขภาพ โดยทางแบรนด์มุ่งขยายฐานลูกค้าทั่วประเทศ เน้นกลุ่มคนวัยทำงาน อายุระหว่าง 25-45 ปี โดยแบ่งสัดส่วนในกรุงเทพฯ 70% และหัวเมืองใหญ่ๆ ในต่างจังหวัด 30% ซึ่งในอนาคตจะขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายครอบคลุมกลุ่มคนที่สนใจดูแลสุขภาพที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป

นางสาวรฐมณฑ์ เลิศรุ่งวิเชียร ผู้ร่วมก่อตั้ง และหุ้นส่วนผู้จัดการ บริษัท เดอะนลาดา กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่าปัจจุบันผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้แบรนด์บีไลฟ์จัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มเป็นหลัก ได้แก่ เว็บไซต์หลัก http://belifethailand.com , LINE Official @belife, Facebook: belifeofficialth, Shopee https://shopee.co.th/belifethailand และ TikTok @belifethailand นอกจากนี้ยังเตรียมขยายสู่ร้านค้าพาร์ทเนอร์และร้านยาในไตรมาส 4 ของปีนี้ รวมถึงเปิดตัว Pop-Up Store เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงและสัมผัสแบรนด์ได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น พร้อมชวนทุกคนกลับมาใส่ใจสุขภาพกายและใจอีกครั้งในแบบที่สะดวกและเข้าถึงได้มากขึ้น

นอกจากนี้แบรนด์ยังเตรียมจัดกิจกรรม “ให้ Be Life อยู่ข้างใจคุณ เล็กๆ ที่ได้ให้ ยิ่งใหญ่ที่ได้ทำ” แคมเปญเพื่อสังคม โดยทุกการซื้อผลิตภัณฑ์จาก Be Life ลูกค้าจะมีส่วนร่วมในการส่งต่อความสุขให้กับผู้ด้อยโอกาสและหน่วยงานเพื่อสังคมต่างๆ ซึ่งทางแบรนด์จะนำรายได้ 10% หลังหักค่าใช้จ่าย ไปสนับสนุนภารกิจและกิจกรรมที่ช่วยเติมเต็มและส่งเสริมชีวิตในหลากหลายมิติของผู้ด้อยโอกาสในสังคม เพื่อเป็นพลังเล็กๆ ให้ใครสักคนดำเนินชีวิตต่อไปด้วยความสุข 

Be Life
Logo
คุยทาง LINE คุยทาง Messenger
chat button
Shopping cart